ช่องว่างคุณภาพในพรีเมียร์ลีกกำลังขยายตัว 6 ทีมยังไม่ชนะแม้แต่นัดเดียวหลังผ่าน 5 เกม

ช่องว่างคุณภาพในพรีเมียร์ลีกกำลังขยายตัว? 6 ทีมยังไม่ชนะแม้แต่นัดเดียวหลังผ่าน 5 เกม

เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกอังกฤษที่มีถึง 6 ทีมยังไม่สามารถเก็บชัยชนะได้แม้แต่นัดเดียวหลังผ่านไป 5 นัดแรกของฤดูกาล ส่งผลให้เกิดคำถามว่าช่องว่างระหว่างทีมยักษ์ใหญ่กับทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นกำลังขยายกว้างขึ้นหรือไม่ นักวิเคราะห์หลายคนเริ่มสงสัยว่าสถานการณ์นี้จะส่งผลต่อการเดิมพันกีฬาในเว็บไซต์อย่าง www.pic5678.com อย่างไร

ทีมที่ยังไม่ชนะแม้แต่นัดเดียว

ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง เซาแธมป์ตัน (Southampton),  อิปสวิช ทาวน์ (Ipswich Town) และ เลสเตอร์ ซิตี้ (Leicester City) รวมถึงทีมเก่าอย่าง คริสตัล พาเลซ (Crystal Palace), เอฟเวอร์ตัน (Everton) และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (Wolverhampton Wanderers) ยังคงไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลยในฤดูกาลนี้

สถิติบ่งชี้ช่องว่างที่กว้างขึ้น

ข้อมูลสถิติชี้ให้เห็นว่าช่องว่างระหว่างทีมชั้นนำและทีมท้ายตารางกำลังขยายตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อการวิเคราะห์การแข่งขันและการเดิมพันบนเว็บไซต์อย่าง www.pic5678.com

คะแนนเฉลี่ยของทีมอันดับต้น

แผนภูมิแสดงให้เห็นว่าคะแนนเฉลี่ยต่อเกมของ 3 ทีมอันดับต้นในทุกฤดูกาลพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ปี 1995/96 มีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน 3 จาก 6 ปีที่ผ่านมา หากทีมอันดับต้นยังคงรักษาฟอร์มปัจจุบันไว้ได้ ฤดูกาลนี้อาจทำลายสถิติด้วยคะแนนเฉลี่ย 2.47 คะแนนต่อเกม

คะแนนของทีมตกชั้น

ในทางตรงกันข้าม ทีมที่ตกชั้นในฤดูกาลที่แล้วรวมกันได้คะแนนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 66 คะแนน โดยลูตัน ทาวน์ (Luton Town), เบิร์นลีย์ (Burnley) และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (Sheffield United) ต้องตกชั้นทันทีหลังเลื่อนขึ้นมา

ประสิทธิภาพการทำประตู

ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ประสิทธิภาพของทีมตกชั้นลดลงทั้งในแง่การรุกและรับ ขณะที่ทีมชั้นนำมีประสิทธิภาพการทำประตูที่ดีขึ้น โดย 3 ทีมอันดับต้นทำประตูได้เฉลี่ย 2.14 ประตูต่อเกมใน 10 ฤดูกาลหลังสุด

โอกาสรอดตกชั้น

แม้จะมีการเริ่มต้นฤดูกาลที่ย่ำแย่ แต่ทีมก็ยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ จากสถิติพบว่ามี 79 ทีมในพรีเมียร์ลีกที่ไม่ชนะในห้าเกมแรก แต่ 47 ทีมในจำนวนนี้สามารถรอดตกชั้นได้

คะแนนวิเศษ 40 แต้ม?

ในอดีต ทีมมักต้องการ 40 คะแนนเพื่อหนีการตกชั้น โดยเฉพาะในช่วงปลายทศวรรษ 90 และล่าสุดในปี 2011 แต่ตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 เป็นต้นมา คะแนนที่ต้องการเพื่อรอดตกชั้นลดลงเหลือเพียง 35 คะแนนหรือน้อยกว่านั้น

การใช้เงินเพิ่มโอกาสอยู่รอด?

ไม่น่าแปลกใจที่การใช้เงินซื้อนักเตะช่วยเพิ่มโอกาสรอดตกชั้น ในฤดูกาล 2022/23 ทั้งสามทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาอย่างน็อตติงแฮม ฟอเรสต์ (Nottingham Forest), บอร์นมัธ (Bournemouth) และฟูแล่ม (Fulham) สามารถรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีกไว้ได้
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ใช้เงินซื้อนักเตะสุทธิถึง 173.3 ล้านปอนด์ในฤดูกาลนั้น มากกว่าทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาทีมอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การใช้เงินมากไม่ได้รับประกันความสำเร็จเสมอไป ฟูแล่มเคยใช้เงินซื้อนักเตะสุทธิ 100 ล้านปอนด์ในฤดูกาล 2018/19 แต่ก็ยังต้องตกชั้น ในทางกลับกัน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (Newcastle United) กลับมีกำไรจากการซื้อขายนักเตะหลังเลื่อนชั้นในปี 2010 แต่ก็ยังรักษาสถานะในพรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาล 2010/11
ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมที่เลื่อนชั้นขึ้นมาใช้เงินมากกว่าที่เคยมีมา โดยอิปสวิช ทาวน์, เซาแธมป์ตัน และเลสเตอร์ ซิตี้ ลงทุนรวมกันถึง 314.5 ล้านปอนด์เพื่อเสริมทัพ
แม้จะมีการลงทุนมหาศาล แต่ Opta ยังคงทำนายว่าทั้งสามทีมจะต้องตกชั้นกลับลงไปเล่นในแชมเปียนชิพ
บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่ทีมในพรีเมียร์ลีกต้องเผชิญ โดยเฉพาะทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาและทีมที่ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ช่องว่างระหว่างทีมยักษ์ใหญ่และทีมท้ายตารางดูเหมือนจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าการใช้เงินจะช่วยเพิ่มโอกาสรอดตกชั้น แต่ก็ไม่ได้เป็นการรับประกันความสำเร็จเสมอไป ทีมต่างๆ จำเป็นต้องหากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อแข่งขันในลีกที่มีการแข่งขันสูงอย่างพรีเมียร์ลีกต่อไป